วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สวนสัตว์เขาสวนกวาง แหล่งท่องเที่ยวของคนรักสัตว์ป่า

สวนสัตว์เขาสวนกวาง แหล่งท่องเที่ยวของคนรักสัตว์ป่า

หากนึกถึงขอนแก่น หลายคนคงนึกไปถึงเสียงแคน ดอกคูณ และไดโนเสาร์ที่ภูเวียง แต่จะมีใครคิดถึง สวนสัตว์ แหล่งรวมจินตนาการของเราเมื่อครั้งยังเด็กกันหรือเปล่านะ สวนสัตว์เขาสวนกวาง เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น เพราะถ้าพูดถึงเขาสวนกวาง คุณคงต้องนึกถึงไก่ย่างเขาสวนกวาง ของดีมีชื่อ แถมยังรสชาติอร่อย สมกับคำกล่าวขานเสียจริงๆ 
สวนสัตว์เขาสวนกวาง
สวนสัตว์เขาสวนกวาง
สวนสัตว์เขาสวนกวาง
  อำเภอเขาสวนกวาง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น และยังเป็นที่ตั้งของ สวนสัตว์เขาสวนกวาง สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ใครก็รู้จักนั่นเอง ปัจจุบันสวนสัตว์แห่งนี้ ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสวนสัตว์ที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ 

     สวนสัตว์เขาสวนกวาง คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของ อุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบน ขอนแก่น-อุดรธานี (สวนสัตว์เขาสวนกวาง) โดยอยู่ในสังกัดขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 27 เมษายน 2552 เนื้อที่ 3,338 ไร่ 
สวนสัตว์เขาสวนกวาง

     หลายคนที่ลังเลไม่แน่ใจว่าจะมาเที่ยว สวนสัตว์เขาสวนกวาง ดีหรือเปล่า มาแล้วจะเจอแต่กวาง หรือมีสัตว์อื่นๆบ้างมั้ย แน่นอนค่ะว่าภายในสวนสัตว์นั้นมีสัตว์มากมายหลากหลายชนิด ซึ่งจะมีการจัดแสดงโดยแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็น ส่วนแสดงสัตว์ตระกูลกวาง ซึ่งจะมีกวางหน้าตาน่ารักออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย 
   จากนั้นไปชม ส่วนแสดงสัตว์แอฟริกา ซึ่งจะมีสัตว์อยู่หลายชนิดเช่นกัน มีทั้งยีราฟ และนกกระจอกเทศตัวโตๆ ซึ่งรับรองว่าสัตว์ทุกตัวน่ารักมากๆค่ะ ถัดไปจะเป็น ส่วนแสดงสัตว์กีบต่างประเทศ และ ส่วนแสดงอูฐโหนกเดียวอูฐสองโหนก ลาและล่อ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับสัตว์ชนิดมือต่อมือ และยังจะได้ชมการให้อาหารสัตว์ซึ่งดูน่าสนใจไปอีกแบบ และสุดท้ายจะเป็น ส่วนแสดง จิงโจ้และเก้ง ซึ่งดูได้ที่เมืองไทย ไม่ต้องบินไปดูถึงออสเตรเลีย แน่นอนว่าบางคนคงสงสัยว่าในหน้าท้องของจิงโจ้นั้นมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า 
สวนสัตว์เขาสวนกวาง

     นอกจากนี้แล้ว อุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบน ขอนแก่น-อุดรธานี ยังมี กิจกรรมแค้มป์ปิ้งและค่ายเรียนรู้ ซึ่งไม่กิจกรรมต่างๆมากมายให้คุณได้เลือกทไ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางไกล เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่า และอื่นๆอีกมากมาย 

     เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว คุณคงตัดสินใจได้ไม่ยากนะคะว่าจะมาเที่ยว สวนสัตว์เขาสวนกวาง ดีหรือเปล่า สำหรับใครที่มีวันหยุดยาว สามารถแวะเวียนมายังสวนสัตว์แห่งนี้ได้เสมอค่ะ  สำหรับคนที่สนใจอยากมาเที่ยวสามารถ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบน ขอนแก่น-อุดรธานี (สวนสัตว์เขาสวนกวาง) 

ภูชี้ฟ้า

ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตรโดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือก เขาดอยผาหม่นด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า โดยมองเห็นภูเขาชี้ขึ้นไปบนฟ้าที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงทำมุม 45 องศา ซึ่งด้านบนมีพื้นที่ราบให้เดินเที่ยวชมประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภูและบริเวณ ลานก่อนถึงยอดซึ่งจะเห็นภูเขาชี้ได้อย่างชัดเจร ไฮไลต์สำคัญ ของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้า คือ มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุด อลังการคลอภูขาที่สวยงาม ชมเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือ ลักษณะภูเขาที่ชี้ไปบนฟ้า หากนักท่องเที่ยวเดินทาง มาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะเป็นช่วงเวลา ที่ดอกเสี้ยวหรือ ชงโคป่าจะผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งเต็มเชิงเขา หากมาเยือน ภูชี้ฟ้าในช่วงปีใหม่ยัง ได้ชม งานปีใหม่ที่ชาวม้งจะแต่งตัวม้งครบถ้วนทั้งหญิงและชาย จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วงหรือลูกหิน ระหว่างหนุ่ม - สาว
ภูชี้ฟ้า
การเดินทางไปภูชี้ฟ้า
1. รถยนต์ส่วนตัว
- การเดินทางจากจังหวัดเชียงรายระยะทางประมาณ 108 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเชียงราย - เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง - ปางค่า ระยะทาง 24 กิโลเมตร จากนั้นเป็นลูกรังถึงภูชี้ฟ้าระยะทาง 19 กิโลเมตร เช่นเดียวกับเส้นทางจาก อ. เทิง


- จากพะเยา ใช้เส้นทาง 1021 เทิง - เชียงคำ ระยะทาง 27 กิโลเมตร ก่อนถึงเชียงคำ 6 กิโลเมตร มีทางแยกไปวนอุทยานน้ำตกภูซาง (1093) บ้านฮวก อีก 19 กิโลเมตร แล้วเดินทางไปภูชี้ฟ้าอีก 30 กิโลเมตร 

2. รถโดยสารประจำทาง
จากตัวเมืองเชียงรายขึ้นรถที่สถานีขนส่งเดินทางได้ 2 วิธี คือ
- รถตู้ไปภูชี้ฟ้า มี 2 เวลา คือ 07.15 ถึงภูชี้ฟ้า 9 โมง ,13.00 ถึงภูชี้ฟ้า 14.30 ค่าโดยสาร 150 บาท ขากลับจากภูชี้ฟ้ามาเชียงราย มี 2 เวลา คือ 09.00 น. ถึงเชียงราย 11.30 น. ,15.00 น.ถึงเชียงราย 17.00 น. การขึ้นรถตู้ไปภูชี้ฟ้าจะเป็นการเดินทางที่ค่อนข้าง สะดวกที่สุด เพราะรถตู้จะไปส่งที่บ้านร่มฟ้าไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักต่างๆ บนภูชี้ฟ้าซึ่งอยู่ตรงบริเวณ ทางขึ้นภูสำหรับใครที่ต้องการ ขึ้นรถตู้็ควรมาก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะรถตู้ที่วิ่งมีเพียง 1คันเท่านั้น หากพลาดไปแล้วจะไม่มีรถตู้เสริม สอบถามรายละเอียดที่ บ. สหกิจเดินรถ โทร 053 742 429 (รถให้บริการเฉพาะช่วงหน้าท่องเที่ยว ปลาย พ.ย. - ม.ค ) หากไม่ใช่บริการรถตู้หรือหมดช่วงหน้า ท่องเที่ยวแล้ว สามารถขึ้นภูชี้ฟ้าได้ทางรถโดยสาร
- รถโดยสารประจำทาง สายเชียงราย-เชียงคำ หรือ เชียงราย-เทิง-เชียงของ ไปลงที่ อ .เทิง รถออกทุก 30 นาที ค่ารถประมาณ 33 บาท  มีรถ 2 แถวขึ้นไปยังภูชี้ฟ้า เวลาบ่าย 2 เที่ยวเดียว   ลงรถโดยสารที่มาจากเชียงรายที่ท่ารถอ.เทิง ถามคนแถวนั้น ว่า 2
แถวขึ้นภูชี้ฟ้า รถอยู่หลังตลาดสด เดินเท้าไปประมาณ 400 เมตร ค่ารถประมาณ 70 บาท พอถึงท่ารถ 2 แถว ถามถึงคันที่ขึ้น ไปถึงภูชี้ฟ้า หรือเหมารถสองแถวไปภูชี้ฟ้าราคาเหมาประมาณ 800 - 900 บาท
สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังยอดภูชี้ฟ้า สามารถติดต่อรถขึ้นได้ยังที่พักของเราโดยตรงซึ่งจะที่พักจะจัดรถมาให้ คิดค่าบริการรับส่ง ขึ้นภูชี้ฟ้าราคาไปกลับ คนละ 60 บาท โดยรถจะจอดส่งที่จุดเดินเท้าจากนั้นเดินขึ้นไปต่ออีกประมาณ 800 เมตร 
ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

แหล่งท้องเที่ยวเชียงราย

ที่เที่ยวเชียงราย - 10 ที่เที่ยวยอดนิยมเชียงราย เหนือสุดของประเทศไทย
1. พระตำหนักดอยตุง เชียงราย 
พระตำหนักดอยตุง Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
2. วัดร่องขุ่น เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
วัดร่องขุ่น Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
ข้อมูล : วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย....... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
3. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
4. ตลาดแม่สาย เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
ตลาดแม่สาย Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
5. วัดพระแก้ว เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
วัดพระแก้ว Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
6. หอนาฬิกาเชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
หอนาฬิกาเชียงราย Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
7. ถนนคนเดิน เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
ถนนคนเดิน เชียงราย Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
8. ไร่บุญรอด เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
ไร่บุญรอด Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
9. วนอุทยานภูชี้ฟ้า เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
วนอุทยานภูชี้ฟ้า Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
10. ดอยผาตั้ง เชียงราย.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001203/lang/th/
ดอยผาตั้ง Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย
ดอยผาตั้ง Painaidii ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดี ที่เที่ยวแนะนำ เชียงราย ที่เที่ยวยอดนิยม เชียงราย เหนือสุดประเทศไทย

สมุนไพรรักษาโรค

 สมุนไพร มหัศจรรย์ รักษาได้หลากโรค

อาหารที่ผู้บริโภคเห็นความสำคัญน้อยที่สุดอย่าง ผัก นั้น กลับกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากชนิดหนึ่ง เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น เกลือแร่ วิตามิน อยู่เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญคือ สารบางอย่างที่มีคุณค่าต่อร่างกาย จะมีเฉพาะใน ผัก เท่านั้น เห็นที่ว่าจะไม่ลิ้มชิมรส ผัก ก็คงจะไม่ดีต่อสุขภาพนัก
นอกจากใน ผัก จะมีคุณค่าต่อร่างกายแล้ว ผัก ยังช่วยรักษาโรคได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางทียาที่หมอให้ ยังไม่อาจสู้ทานพืช ผัก เหล่านี้เลย เรามาดูกันว่ามี ผัก อะไรที่ช่วยรักษาโรคได้อย่างน่ามหัศจรรย์ บ้าง
iStock_000048557098_Small
1. ขี้เหล็ก
สำหรับคนสมัยใหม่ อาจจะไม่ชอบทานสักเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นคนสมัยก่อน รุ่นคุณพ่อคุณแม่เราขึ้นไปแล้ว บอกเลยว่าอาหารที่ทำด้วย ผัก ขี้เหล็กจัดเป็นอาหารรสเลิศถูกปากมากเลยทีเดียว
และนอกจากใช้ประกอบอาหารแล้ว ใบขี้เหล็กสามารถรับประทานเป็นยาชั้นดี เพราะใบขี้เหล็กมีทั้งวิตามินเอ วิตามินซี เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 และไนอาซิน
สรรพคุณทางยาของใบขี้เหล็กมีสารชนิดหนึ่งออกฤทธิ์ต่อประสาททำให้นอนหลับดี แก้ท้องผูกได้ดี และบำรุงร่างกายให้กระชุ่มกระชวยได้
Banana flower
Banana flower
2. หัวปลี
หัวปลี ที่เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย ที่หลายคนไม่ชอบทาน หารู้ไม่ว่าใบหัวปลีนั้นมีธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง และยังคงลดน้ำตาลในเลือดได้ รวมถึงยังสามารถทานแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ได้เป็นอย่างดี
fresh carrots isolated on white background
6. แครอท
นับเป็นผักที่ให้เบต้าแคโรทีสูง ซึ่งสารที่พบในแครอทนี้จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย มีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งจะออกฤทธิ์ในการรักษาไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบ ลดการอักเสบและบวมได้ ถ้าใช้ทาผิวภายนอกช่วยลดอาการแสบร้อนของผิวเนื่องจากโดนแดดเผาไหม้ ลดฝ้าและรอยด่างดำลงได้
นอกจากนี้การทานแครอทยังช่วยป้องกันลดมะเร็งปอด มะเร็งมดลูก กระเพาะอาหารและเต้านม ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยในระยะพักฟื้น ลดความอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย รักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาว บรรเทาอาการข้ออักเสบ ช่วยล้างพิษในตับ บำรุงสายตา แก้ตาฝ้าฟาง ตาบอดกลางคืน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร ขับพยาธิไส้เดือน บำรุงผิว ชะลอความชราของผิวพรรณได้ดีด้วย
สารพัดประโยชน์ และเป็นได้สารพัดยาเลยล่ะค่ะ สำหรับผักแต่ละชนิด บางทีสิ่งเหล่านี้อาจอยู่ใกล้ตัวเรามากเกินไปจนหลายคนมองข้ามคุณค่าที่น่าทึ่งไป อย่าลืมชายตามองพืชผักกันบ้าง แล้วคุณจะได้ฟื้นฟูสุขภาพจากอาหารนานาประดยชน์อย่างพืชผักเหล่านี้

หน้าเรียวโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

7 วิธีช่วยให้หน้าเรียวโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

หน้าเรียว(ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า บทความนี้ทาง Patcharapa ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อแนะนำให้ผู้อ่านไปทำศัลยกรรมเพื่อให้มีใบหน้าที่เรียวเล็กกันนะครับ เขียนไว้เพื่อจุดประสงค์ในการให้ความรู้เรื่องความสวยความงามเท่านั้น!!)
หากให้ตั้งคำถามว่ารูปหน้าแบบไหนถึงจะดูดีที่สุดในขณะนี้ – คงต้องยอมรับว่า รูปหน้าตัว V หรือที่เรียกกันว่า V-Shape นั้น เป็นรูปหน้าที่มาแรงจริงๆ สังเกตุจากเหล่าดารา เซเลบ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในขณะนี้ (โดยเฉพาะในประเทศเอเชีย) ล้วนแต่มีใบหน้าเรียว, เล็ก ทรง V-Shape กันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ของเซเลบที่มีรูปหน้าเรียวๆ เล็กๆ เนี่ย ผ่านมีดหมอหรือเข็มกันมาซะส่วนใหญ่
*แล้วมีวิธีอื่นบ้างไหมที่จะทำให้หน้าเรียวได้โดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรม?* คำตอบคือ มี!
ซึ่งวิธีการทำหน้าเรียวโดยไม่ศัลยกรรมนั้นอาจจะไม่ได้ผลเร็วทันใจฉับไวเหมือนกับการศัลยกรรม แต่ผลที่ได้จากการทำให้หน้าเรียวแบบธรรมชาติโดยไม่พึ่งหมอนั้น อยู่ได้นาน ดีต่อสุขภาพ และ ไม่เสี่ยงกับอันตรายใดๆทั้งสิ้น
หรือหากว่าคุณผ่านการโบทอกซ์, ร้อยไหม, ผ่าตัดกราม หรือศัลยกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้หน้าเรียวเล็กกันมาแล้ว คุณก็สามารถทำวิธีการต่างๆที่จะแนะนำต่อไปนี้ เพื่อให้หน้าอันเรียวเล็กของคุณมีรูปทรงที่ดียิ่งขึ้นและอยู่กับคุณไปนานๆ

หน้าเรียว – ก่อนอื่นมาดูประโยชน์ของการมีหน้าเรียวทรง V-Shape กันก่อน

1. คุณจะดูเด็กกว่าวัยได้ถึง 10 ปีจากการมีใบหน้าทรงวีเชฟ (ถ้าไม่เชื่อ ดูรูปบรรดาหนุ่มๆสาวๆเกาหลีข้างล่าง)
2. เมื่อทรงหน้าเปลี่ยนเป็นแบบวีเชฟ ลักษณะโดยรวม ความสวยความงามของใบหน้าทั้งหมดจะเปลี่ยนไปด้วย
3. ได้รับความสนใจมากขึ้น (แน่นอนหละ ก็สวยขึ้นหนิ)
4. เป็นเทรนด์ที่แรงอย่างไม่หยุดไม่มีตกจริงๆ เพราะใครๆก็ต่างอย่างได้ใบหน้าที่เรียวเล็ก
ทีนี้เชื่อหรือยังครับว่า ที่บอกไปว่าการที่มีใบหน้าเรียวเล็กเนี่ยทำให้หน้าดูเด็กลงมากจริงๆ แถมยังดูดีขึ้นอีกเยอะเลยด้วย (บางคนข้างบนอาจจะทำศัลยกรรมหลายอย่าง เช่น ตา, จมูก, คาง จนใบหน้าดูดีกว่าเดิม)
ทีนี้สำหรับผู้ที่อยากมีใบหน้าเรียวทรงวีเซฟ แต่คิดว่าการศัลยกรรมนั้น อาจจะเสี่ยงเกินไป, ไม่จำเป็น หรือ มีราคาแพงเกินความจำเป็น วันนี้เรามีข่าวดี! คือ คุณสามารถมีรูปหน้าแบบ V-Shape ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาศัลยกรรมเลย เพียงแค่รู้จัก ทริคเล็กๆน้อยๆ และทำมันทุกวันอย่างมีวินัยและตั้งใจจริง คุณก็จะได้มีใบหน้าเรียวสวยเหมือนดาราแล้ว ต่อไปนี้เป็น 7 วิธีช่วยให้หน้าเรียวโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ!

เที่ยวสวนพฤกษศาาสตร์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,500 ไร่ เป็นสถานที่ อนุรักษ์และรวบรวมพรรณไม้เป็นหมวดหมู่ตามวงศ์สกุลต่างๆ โดยจัดปลูกให้สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุดโดย เฉพาะกลุ่มอาคาร เรือนกระจกบนยอดเขาที่มีทั้งความสวยงามและความรู้ ทำให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและ สถานที่ศึกษาธรรมชาติ ด้านพืช และ ภูมิทัศน์ที่โดดเด่นมากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เดิมเรียกว่า "สวนพฤกษศาสตร์แม่สา" นับว่าเป็น สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิจัย และให้ความรู้ ทางด้านพฤกษศาสตร์ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
- ศูนย์สารนิเทศเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ไทย นิทรรศการด้านพฤกษศาสตร์และมีหนังสือ เกี่ยวกับพรรณไม้ที่ สวนพฤกษศาสตร์จัดทำขึ้นจำหน่ายอีกด้วย

- กลุ่มอาคารเรือนกระจกอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ใน เขตป่าดงดิบ จากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ โดยการฉีดละอองน้ำใน เรือนกระจก รวมทั้งมีน้ำตกจำลองด้วย จัดแต่งสภาพเหมือนกับเข้าไปอยู่ในป่าจริงๆ นอกจากนี้อาคารเรือนกระจกอื่นๆ ก็มีพรรณไม้ ที่น่าสนใจ เช่น พืชทะเลทราย พรรณไม้น้ำ เฟิน กล้วยไม้ เป็นต้น

- เรือนกล้วยไม้ไทยในเรือนนี้ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออกดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์

- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สวนพฤกษศาสตร์ได้จัดเส้นทางเดินชมพรรณไม้ตาม จัดไว้ 4 เส้น คือ 1.เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร 2.เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร 3. เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กม. 4. เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพรรณไม้ที่รวบรวมไว้กว่า 30 วงศ์ มีวงศ์ปาล์ม เตย ราชพฤกษ์ วัลยชาติ (ไม้เลื้อย) ขิงข่า เป็นอาทิ แต่ละชนิดจะมีป้ายชื่อพรรณไม้ที่ถูกต้องไว้ให้ศึกษาภายในสวนพฤกษศาสตร์ยังมีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณน้ำตกแม่สาน้อย ซึ่งเป็นลำธารเล็กๆ มีผู้คนนิยมนำอาหารไปปิกนิกอยู่เป็นประจำ
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ปัจจุบันสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้สร้าง Canopy walkway  หรือทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดใน ประเทศไทย  ด้วยระยะทางกว่า 400 เมตร และระดับความสูงกว่า 20 เมตร  โดยออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ โครงสร้างทำมาจากเหล็กกล้า แข็งแรง บางช่วงยังมีกระจกใสสามารถมองเห็นลงไปด้านล่างได้
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

วิธีลดความอ้วน

วิธีลดความอ้วน 7 วัน 8 กิโลกรัม ทำได้อย่างไร ไปดูกัน

     ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก วิธีลดความอ้วน ? เพราะมีกำหนดการที่จำเป็นจะต้องสวมใส่ชุดสวยเข้ารูปหลังจากนั้นอีกเพียง 2-3 สัปดาห์ ซึ่งในระยะเวลากระชั้นชิดนี้ คุณอาจคิดว่าตัวเองจะต้องออกกำลังกาย และควบคุมอาหารกันอย่างหนัก เพื่อรีดน้ำหนักส่วนเกินให้หมดไปจนกระทั่งสามารถสวมใส่ชุดสวยเข้ารูปให้ดูดีได้ แต่ที่จริงแล้ว คุณอาจไม่ต้องฝืนพยายามมากขนาดนั้น ขอเพียงแค่เข้าใจเคล็ดลับการ ลดความอ้วน อย่างถูกต้อง ใช้วิธีลดความอ้วน 7 วัน คุณก็จะมี วิธีลดน้ำหนัก ให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น

อยากลดความอ้วน 7 วัน โปรดอ่าน


เคล็ดลับ วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ 7 วัน แบบทำได้จริง
         หากคุณสามารถที่จะรวบรวม และเข้าใจถึงเมนูอาหารลดน้ำหนักที่เหมาะสมในการลดน้ําหนักด้วยตัวเอง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามวิธีลดความอ้วน 7 วัน ที่กำลังจะขอแนะนำต่อไปนี้ ด้วยวิธีง่ายๆเหล่านี้ ก็จะช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายหุ่นสวยของตัวเอง สำหรับข้อแนะนำเบื้องต้นก่อนเข้าสู่เมนูลดความอ้วน
แนะนำต่อไปนี้ คือ คุณไม่ควรที่จะข้ามไม่ทานอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง หรือทานอาหารผิดเวลา เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดการขาดสมดุลทางโภชนาการตามแผนที่ได้วางเอาไว้ จนกระทั่งส่งผลให้ แผนการ ลดความอ้วน 7 วัน ของคุณอาจล้มเหลวอย่างน่าเสียดายทีเดียว หากใครพร้อมแล้วที่จะลดความอ้วน 7 วัน สามารถทานอาหารได้ตาม เมนูลดน้ําหนัก แนะนำ ดังต่อไปนี้กันเลย
ลดความอ้วน
 วันที่ 1 : ผลไม้สด ในวันแรกของการ ลดน้ําหนักแบบเร่งด่วน ควรเริ่มจากการปรับสภาพร่างกายด้วยผลไม้สดที่อุดมสมบูรณ์ คุณสามารถที่จะเลือก ผลไม้ลดความอ้วน ที่ตัวเองชอบ แต่ให้ยกเว้นการรับประทานกล้วย แล้วเน้นไปทานผลไม้ประเภทแตงโม และแคนตาลูป พร้อมกับดื่มน้ำวันละ 8-12 แก้ว นอกจากนี้ คุณไม่ควรที่จะทานอาหารประเภทอื่นๆอีกเลย นอกจากผักดิบ หรือผักต้ม แต่ถ้าคุณรู้สึกห้ว ก็ให้ทานผลไม้ และดื่มน้ำให้มากขึ้น
         วันที่ 2 : ผัก วันนี้คุณสามารถที่จะทานอาหารประเภทผักได้อย่างเต็มอิ่ม แต่ให้แน่ใจว่าอาหารที่ทำจากผักเหล่านั้น ไม่ได้ผ่านกระบวนการปรุงผ่านน้ำมัน สำหรับอาหารผักที่แนะนำได้แก่ ถั่ว แครอท แตงกวา ผักกาดหอม กระหล่ำปลี ผักกาด เป็นต้น และอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอพียงด้วย
         วันที่ 3 : ผักและผลไม้ ให้แน่ใจว่าคุณหลีกเลี่ยงการทานมันฝรั่งในส่วนของผัก และกล้วยจากในส่วนของผลไม้ แผนการอาหารของวันนี้เริ่มต้นด้วยการทานผลไม้เป็นอาหารเช้า ผักในมื้อเที่ยง ผลไม้ในมื้อเย็น และผักผลไม้ในมื้อดึกอีกครั้ง และอย่าลืมดื่มน้ำมากๆด้วย
         วันที่ 4 : กล้วยและนม ในวันนี้คุณสามารถทานกล้วย 8-10 ลูก และนมอีก 3 แก้ว สำหรับเป็นอาหารตลอดทั้งวัน ซึ่งในวันนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกหิวบ้าง แต่ถ้าหากจัดสรรดีๆ ด้วยอาหารปริมาณเท่านี้ก็สามารถที่จะช่วยทำให้คุณอยู่ได้ตลอดทั้งวัน
         วันที่ 5 : มะเขือเทศ ในวันนี้คุณสามารถทานข้าวได้ 1 จาน ในมื้อกลางวัน และมะเขือเทศจำนวนประมาณ 7-8 ผล ในวันนี้ร่างกายของคุณมีโอกาสที่จะผลิตกรดยูริคเป็นจำนวนมาก จึงควรที่จะดื่มน้ำในปริมาณมากขึ้น ประมาณ 12-15 แก้ว
         วันที่ 6 : ในมื้อกลางวันคุณสามารถทานข้าวได้หนึ่งจาน แต่ในมื้อที่เหลือของวัน คุณต้องทานผักเป็นหลักเช่นเดิม และอย่าลืมการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
         วันที่ 7 : ผลไม้และน้ำผัก ในวันนี้คุณได้รับอนุญาตให้ทานข้าว ผัก และน้ำผลไม้ เพื่อช่วยในการลบล้างขับสารพิษที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกาย และยังเป็น สูตรอาหารลดน้ําหนัก ที่ดีอีกด้วย
ลดความอ้วน
 การทำตามสูตรเมนูอาหารลดความอ้วน 7 วัน อย่างเข้มงวดนี้ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้มากถึง 4-5 กิโลกรัม แต่ยังช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหาร และทำให้ผิวพรรณมีความกระจ่างสดใสมากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีที่เรียกได้ว่าสุดแสนจะเรียบง่ายเลยทีเดียว และยังเป็น วิธีลดน้ําหนักแบบธรรมชาติ อีกด้วย

         แม้ว่าจะปฎิบัติตัวตาม อาหารลดน้ําหนัก 7 วัน ผู้หญิง เพื่อแก้ไขปัญหา วิธีการลดความอ้วนที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้น แต่คุณก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาน้ำหนักตัวเกินมาตราฐานขึ้นได้จากอีกหลากหลายปัจจัย สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพช่วยในการแก้ไขเป็น เคล็ดลับลดความอ้วน ลดเลือนปัญหาน้ำหนักเกินมาตราฐาน ด้วย Meedy สูตรธรรมชาติ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญในร่างกายให้สูงมากขึ้นในทุกอริยาบทตลอดทั้งวัน แถมยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารจากธรรมชาติที่ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้อย่างยาวนาน พร้อมเสริมวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น ลดอาการอยากทานอาหารจุกจิให้น้อยลงตลอดวัน น้ำหนักจึงค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ และเป็นการ ลดไขมัน ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติอย่างปลอดภัย และไม่เป็นภาระต่อร่างกายอีกด้วย

ขอเพียงปฎิบัติตัวตามวิธี ลดความอ้วน 7 วัน ที่ได้แนะนำในตอนต้น รับรองว่าน้ำหนักของคุณจะลดลงอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

อาหารเพื่อสุขภาพ

พิซซ่าไข่ อาหารคลีนเมนูไข่ อิ่มอร่อยแต่ไม่อ้วน

พิซซ่าไข่
 สาวกอาหารคลีนมีเฮ รับรองต้องชอบเมนูพิซซ่าไข่ ใส่ข้าวไรซ์เบอร์รี และเครื่องเครา โดนไปแผ่นเดียวอิ่นยันเที่ยง
          พิซซ่าทั่วไปคงไม่เหมาะสำหรับคนกำลังลดน้ำหนักหรือคนกินอาหารคลีน เพราะมีทั้งแป้งและไขมันสูงปรี๊ด แต่ถ้าใครสนใจอยากกินพิซซ่าคลีนก็ไม่ยากเย็นอะไร กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำพิซซ่าไข่ หรือ ไข่เจียวพิซซ่า สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2545761 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับไข่ตีผสมกับข้าวไรซ์เบอร์รี เห็ด มะเขือเทศ กับแครอท ทอดจนเป็นแผ่นสวย หรือจะดัดแปลงเป็นพิซซ่าไข่กะทะก็เอาที่สบายใจเลยค่ะ

อาหารคลีนง่าย ๆ ทำเองได้ไม่ยาก Egg Pizza โดย คุณสมาชิกหมายเลข 2545761 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          อาหารคลีนง่าย ๆ ทำเองได้ไม่ยาก Kitchen's Krit'da คิดเช่น กิดดา พาไปทำพิซซ่าไข่‬ อร่อยง่าย ๆ ไม่มีแป้ง ไร้ไขมัน ไม่อ้วน รอบนี้ของเยอะหน่อย แต่ไม่ยากครับ
พิซซ่าไข่

ส่วนผสม พิซซ่าไข่

          • ไข่ไก่ 3 ฟอง (สำหรับ 2 คน)
          • เห็ดหั่นบาง 
          • แครอทหั่นเส้น
          • ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือข้าวกล้องหุงสุก 100 กรัม หรือ 1 ทัพพี 
          • น้ำปลา
          • น้ำมันมะกอก
          • พริกขี้หนู (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
          • มะเขือเทศราชินี

วิธีทำพิซซ่าไข่
พิซซ่าไข่
    • ตอกไข่ใส่ชาม แบ่งเห็ดใส่บางส่วน แครอท และข้าวลงในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อย แต่ไม่ใส่ผงชูรสนะ
พิซซ่าไข่
 • เทน้ำมันมะกอกลงไปพอเคลือบหน้ากระทะ รอให้ร้อน เทส่วนผสมไข่ทั้งหมดลงไป รอจนไข่เริ่มสุก 
พิซซ่าไข่
    • ได้เวลาแต่งหน้าพิซซ่าแล้ว โรยเห็ดส่วนที่แบ่งไว้ ตามด้วยมะเขือเทศสไลซ์ ตกแต่งให้สวยงาม รอจนข้างล่างเริ่มเซตตัวแล้วพลิกกลับด้าน 

          • เทคนิคการพลิกให้ยังคงเป็นแผ่นควรหาจานสังกะสีขนาดเท่า ๆ กับกระทะมาครอบไว้แล้วค่อยกลับด้าน ไข่ก็จะยังคงรูปอยู่ไม่แตก
พิซซ่าไข่

     • เสร็จแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้
พิซซ่าไข่

  • จะทานเลยหรือตัดเป็นแผ่นสามเหลี่ยมวางซ้อน ๆ กันก็ได้

          ป.ล. อาจจะราดซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศได้ แต่อย่าลืมว่า เรากินคลีนอยู่ ถ้าตัดพฤติกรรมราดซอสออกไปได้ก็ดี

สมุนไพรรักษาเบาหวาน

สมุนไพรรักษาเบาหวาน บำรุงสุขภาพก็ได้ ลดน้ำตาลก็ดีไม่เบา

สมุนไพรรักษาเบาหวาน
โรคเบาหวาน รักษาได้ด้วยวิถีธรรมชาติ ต้อนรับสุขภาพดีและลดน้ำตาลในเลือดได้ด้วยสมุนไพรสรรพคุณเลอค่า
เรื่องใหญ่ที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปก็เสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานขึ้นตา หรือแม้แต่โรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นนอกจากจะรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งแล้ว ผู้ป่วยหลาย ๆ คน ก็ยังเสาะหาวิธีควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งอีกหนทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือการรับประทานสมุนไพร เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องโรคเบาหวานได้แล้วก็ยังได้ของแถมเป็นสุขภาพที่ดีอีกด้วย อย่างเช่นสมุนไพรทั้ง 15 ชนิดนี้ที่สามารถรักษาอาการของโรคเบาหวาน พร้อมพ่วงด้วยประโยชน์เพื่อสุขภาพดี ๆ อีกมากมาย 
สมุนไพรรักษาเบาหวาน
 มะระขี้นก สมุนไพรไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องการลดระดับน้ำตาลในเลือด เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่เป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างแท้จริง ด้วยเพราะสารซาแรนติน (Charatin) ในผลมะระขี้นกที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ต้านอาการของโรคเบาหวาน และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน เพิ่มความทนทานต่อกลูโคสของร่างกาย และช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด 
สมุนไพรรักษาเบาหวาน
  แม้ว่าชื่ออาจจะแปลกไปสักนิด แต่สรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดนั้นไม่มีบกพร่องเลยแม้แต่น้อย โดยมีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดของใบตดหมูตดหมาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการเพิ่มการหลั่งของอินซูลินในร่างกาย อีกทั้งสมุนไพรชนิดนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกเพียบ และลดไขมันในเลือดได้ ขณะที่สรรพคุณทางยาพื้นบ้านก็ยังมีอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะช่วยล้างพิษ แก้ท้องอืด ท้องผูก ถ่ายพยาธิ แก้อ่อนเพลีย ตกเลือด หรือแม้แต่แก้ปวดเมื่อยก็ช่วยได้เช่นกัน เป็นสมุนไพรพื้นบ้านไทยที่นำมาใช้แล้วไม่ผิดหวัง
3. อบเชย
  อบเชย หรือชินนามอน (Cinnamon) เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่มีสารสำคัญในการช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวานและโรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย โดยแค่เพียงโรยผงอบเชยลงในอาหารที่รับประทานก็ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้วล่ะค่ะ

4. เห็ดหลินจือ
สมุนไพรรักษาเบาหวาน

   เอีกหนึ่งสุดยอดสมุนไพรจีนล้ำค่าที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีคุณกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย เนื่องจากในเห็ดหลินจือมีสารในกลุ่มโพลีแซ็กคาไรด์  (Polysaccharide)  ซึ่งที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน อีกทั้งยังช่วยให้น้ำตาลที่อยู่ในเลือดถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่ร่างกาย และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 

5. บอระเพ็ด
บอระเพ็ด
   สมุนไพรรสชาติขมอีกชนิดที่อยากให้คุณได้ลอง เพราะเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่อยู่ในตำรับยาไทย ช่วยบำรุงหัวใจ ลดไข้ และช่วยให้เจริญอาหาร ที่สำคัญมีการศึกษาแล้วว่าบอระเพ็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยไม่พบผลข้างเคียงอันตรายใด ๆ อีกด้วย ทว่าอาจจะรับประทานยากเพราะขม แต่อย่าลืมนะว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา

6. ตำลึง
12 สมุนไพรเพื่อผู้สูงอายุ

  ตำลึง สมุนไพรที่ถูกนำมาใช้รักษาเบาหวานนานนับพันปี โดยตำราแพทย์แผนอายุรเวทระบุไว้ว่า ตำลึงสามารถใช้ในการรักษาโรคเบาหวานได้แทบจะทุกส่วนของต้น ไม่ว่าจะเป็นราก เถา หรือใบ อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ ๆ กับโสม แค่เพียงรับประทานตำลึงเพียงวันละ 50 กรัม ติดต่อกันเป็นประจำทุกวันก็สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติได้

7. มะเขือพวง
  ตำลึง สมุนไพรที่ถูกนำมาใช้รักษาเบาหวานนานนับพันปี โดยตำราแพทย์แผนอายุรเวทระบุไว้ว่า ตำลึงสามารถใช้ในการรักษาโรคเบาหวานได้แทบจะทุกส่วนของต้น ไม่ว่าจะเป็นราก เถา หรือใบ อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ ๆ กับโสม แค่เพียงรับประทานตำลึงเพียงวันละ 50 กรัม ติดต่อกันเป็นประจำทุกวันก็สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติได้

สมุนไพรรักษาเบาหวาน
 สารโพลีฟีนอลในชาเขียวเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังที่ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย โดยสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน แถมยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ก็ควรจะดื่มชาเขียวแท้ ๆ นะคะ แบบที่เติมน้ำตาลเยอะ ๆ นั้นเลี่ยงให้ไกลเลยโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ไม่งั้นอาจจะได้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาแทน

9. กระเทียม
 สารอัลซิลิน (allicin) ที่มีในกระเทียมนอกจากจะมีสรรพคุณลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้แล้ว ก็ยังมีฤทธิ์ต่อต้านโรคเบาหวาน อีกทั้งมีการศึกษาพบว่าเอทานอลที่อยู่ในกระเทียมสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้ ซึ่งถ้าอยากให้ได้ประโยชน์จากกระเทียมแบบเน้น ๆ อย่างนี้ก็ควรจะรับประทานกระเทียมแบบสด ๆ เพราะกระเที่ยมที่ผ่านความร้อนแล้วจะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่ากระเทียมสดค่ะ

10. ว่านหางจระเข้
สมุนไพรรักษาเบาหวาน
ไม่เพียงแต่ช่วยลดการบวม อาการอักเสบ และช่วยสมานแผลได้เท่านั้น แต่ว่านหางจระเข้ยังเป็นสมุนไพรที่เหมาะจะใช้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย เพราะมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าน้ำของว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทั้งนี้ก็ยังช่วยลดระดับไขมันในเลือด และสรรพคุณพื้นฐานของว่านหางจระเข้ที่ช่วยลดอาการบวมและรักษาแผลก็ยังสามารถใช้กับผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วย เพราะผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดบาดแผลมักจะมีปัญหาแผลหายช้าทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย 
สมุนไพรรักษาเบาหวาน

  สมุนไพรที่ให้สีเหลืองสดใสนี้ นอกจากจะช่วยลดอาการอักเสบได้แล้วก็ยังสามารถชะลอการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยพบว่าคนที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวานหากรับประทานอาหารที่มีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในขมิ้นติดต่อกันเป็นประจำ_จะช่วยให้ความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง ทั้งนี้มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเพราะสารเคอร์คูมินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง จึงช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายได้นั่นเอง

12. ขิง
  ขิงมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งศึกษากับหนูทดลองพบว่า หนูที่ได้กินสารสกัดจากขิงวันละ 250 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ ผลที่ได้รับคือ ระดับกลูโคสในเลือดของหนูลดลง รวมทั้งยังช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ทั้งนี้ก็ยังส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณอินซูลินด้วย 

13. กระเจี๊ยบเขียว
สมุนไพรรักษาเบาหวาน
   พืชพื้นเมืองของเอธิโอเปียที่เป็นหนึ่งในผักเคียงในจานน้ำพริกของคนไทยอย่างกระเจี๊ยบเขียว เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และคุณค่าทางโภชนาการสูงลิบ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวมีไฟเบอร์สูง โดยเฉพาะไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้สามารถช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้ยังหารับประทานไม่ยากเลยล่ะค่ะ
14. โสม
โสมเกาหลี
 ด้วยสรรพคุณอันน่าอัศจรรย์อย่างการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้โสมเป็นสมุนไพรที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า โดยมีการค้นพบว่าการรับประทานโสมสามารถช่วยชะลอการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรต และเพิ่มการทำงานของเซลล์ ช่วยให้เซลล์สามารถดึงเอากลูโคสไปใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มการหลั่งของอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 15-20% เลยทีเดียว

15. ผักเชียงดา
สมุนไพรรักษาเบาหวาน

 สมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวานแบบพื้นบ้านมานานนับพันปี นอกจากคุณประโยชน์ในการช่วยเสริมกำลังแล้ว ผักเชียงดายังสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยเจ้าผักชนิดนี้จะนำเอาน้ำตาลในร่างกายไปเผาผลาญมากขึ้น อีกทั้งยังเข้าไปฟื้นฟูเบต้าเซลล์ของตับอ่อนที่เสียหายจากการถูกน้ำตาลทำลาย ซึ่งเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และ 2 ทั้งนี้ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน แถมยังเพิ่มการหลั่งอินซูลินได้อีกด้วยล่ะ ดีแบบนี้ขอบอกว่าผักเชียงดานั้นมีให้รับประทานง่าย ๆ แบบแคปซูลกันแล้ว ลองหามารับประทานกันได้ค่ะ

          แม้ว่าการใช้สมุนไพรจะช่วยรักษาอาการเบาหวานได้ แต่ก็อย่าลืมว่าสมุนไพรบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย หากคิดจะใช้สมุนไพรควบคู่กับการรักษาละก็ ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนจะดีที่สุดค่ะ